ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศส่งผลต่อระบบนิเวศเป็นอย่างมาก ทำให้มลพิษทางอากาศเริ่มมีมากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นตัวการทำให้คอลลาเจนในร่างกายเริ่มมีการสูญเสียได้มากยิ่งขึ้นและไวยิ่งขึ้น แม้อายุยังไม่ถึงเลข 3 ร่างกายของหลายคนก็เริ่มขาดคอลลาเจนแล้ว บางคนอาจจะยังไม่ทันสังเกตว่าทำไมถึงผิวพรรณของคุณจึงเป็นเช่นนี้? หรือทำไมร่างกายจึงเป็นเช่นนี้? ซึ่งมันเกี่ยวอะไรกับคอลลาเจน คอลลาเจนคืออะไร วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยให้คุณกัน
คอลลาเจนคืออะไร ? สำคัญต่อร่างกายอย่างไร?
คอลลาเจน (Collagen) คือเส้นใยโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีติดตัวอยู่ในร่างกายของเราทุกคนอยู่แล้ว และยังถือว่าเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีปริมาณมากถึง 1 ใน 3 ของโปรตีนทั่วทั้งร่างกายอีกด้วย เพราะมันมีอยู่ทั้งในผิวหนัง เส้นผม เล็บ กล้ามเนื้อ กระดูก ข้อต่อ เส้นเอ็น ฟัน หลอดเลือด รวมถึงในกระจกตา
หน้าที่ของคอลลาเจนก็เปรียบเสมือนกับกาวที่คอยยึดเกาะสิ่งต่าง ๆ ตามร่างกายเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเยื่อ กระดูก กล้ามเนื้อ เอ็น หรือข้อต่าง ๆ ตามร่างกาย ซึ่งในทุก ๆ วันร่างกายของเราจะสามารถผลิตคอลลาเจนขึ้นมาได้เอง แต่เมื่อคุณเริ่มเข้าสู่วัย 25+ ขึ้นไปความสามารถในการผลิตคอลลาเจนของร่างกายก็จะเริ่มลดน้อยลง ในขณะที่อัตราการสลายยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องประมาณร้อยละ 1 ต่อปี ยิ่งหากเป็นคนที่ไม่ค่อยดูแลตัวเอง อัตราการสลายของคอลลาเจนก็จะยิ่งลดลงได้มากขึ้นและไวยิ่งขึ้น
ปัจจุบันนี้ จึงอาจสังเกตได้ว่าผู้ที่มีอายุมากขึ้นเริ่มหันมาเติมเต็มคอลลาเจนในส่วนที่สลายไปให้แก่ร่างกาย เพื่อให้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายยังคงยึดติดกันอย่างเหนียวแน่นอยู่ โดยส่วนใหญ่แหล่งของคอลลาเจนที่สามารถหาได้นั้นมักมาจากการสังเคราะห์จากสัตว์ เช่น คอลลาเจนจากหมู วัว ปลา โดยแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบคือ คอลลาเจนเปปไทด์ คอลลาเจนไตรเปปไทด์ และคอลลาเจนไดเปปไทด์ หากร่างกายมีปริมาณคอลลาเจนที่เพียงพอต่อความต้องการก็จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่าง ๆ ได้ ดังนี้
ประโยชน์ของคอลลาเจน
- ช่วยลดความหยาบกร้านของผิว ทำให้ผิวดูฟูและมีความชุ่มชื้น
- ลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัยและช่วยทำให้ริ้วรอยดูจางลง
- บำรุงเล็บให้แข็งแรงขึ้น ทำให้เล็บเปราะและฉีกยาก
- ช่วยบำรุงด้านข้อต่อต่าง ๆ ในผู้สูงอายุ
- ช่วยชะลอการสลายของมวลกระดูก
หากขาดคอลลาเจนจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย?
ทุก ๆ ปี คอลลาเจนในร่างกายจะมีอัตราการสลายอย่างน้อยร้อยละ 1 ต่อปี และยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไหร่ความสามารถในการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาได้เองตามธรรมชาติก็ยิ่งมีน้อยลงเท่านั้น หากไม่มีการเติมเต็มคอลลาเจนในส่วนที่ขาดหายไปอาจส่งผลต่อร่างกายตามช่วงวัยได้ ดังนี้
30 – 39 ปี
ขนาดของรูขุมขนจะเริ่มกว้างและเห็นได้ชัดขึ้น รวมถึงอาจเกิดทั้งฝ้าและกระทั้งแบบลึกและแบบตื้นได้ ในส่วนของผิวก็จะเริ่มมีรอยย่นบาง ๆ บริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว และบริเวณร่องแก้มจากจมูกถึงริมฝีปากบน
40 – 49 ปี
หากร่างกายเริ่มขาดคอลลาเจน ในช่วงอายุวัยนี้จะเริ่มมีรอยย่นที่เห็นชัดมากขึ้นบนบริเวณใต้ขอบตาล่าง หางตา หน้าผาก และระหว่างคิ้ว เริ่มมีฝ้าลึกเกิดขึ้น มีติ่งเนื้อขึ้นเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีน้ำตาลซึ่งจะเรียกภาวะนี้ว่า ‘วัยตกกระ’ นอกจากนี้ผิวก็จะเริ่มแห้งและมีรูขุมขนที่ใหญ่ขึ้น
50 – 64 ปี
สภาพผิวในกลุ่มอายุนี้เมื่อขาดคอลลาเจนจะมีภาวะคล้าย ๆ กับกลุ่มวัย 40+ ปี แต่รอยย่นตามร่องแก้มจะเห็นชัดและทอดยาวมากขึ้น ติ่งเนื้อเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น และอาจมีอาการปวดตามข้อกระดูก หรือหญิงวัยหมดประจำเดือนอาจเสี่ยงเป็น โรคกระดูกพรุน เพิ่มขึ้นได้เช่นกัน
65 ปีขึ้นไป
เมื่อเข้าสู่วัย 65 ปีขึ้นไป ริ้วรอยจะเริ่มเกิดขึ้นทั่วทั้งหน้าและมีรอยย่นเหนือริมฝีปาก ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมชาติที่ต้องเกิดขึ้นกับทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็สามารถชะลอความเสื่อมของผิวและรักษาผิวให้ดูดีให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยการเติมเต็มคอลลาเจนเพื่อทดแทนในส่วนที่สลายไป
วิธีเติมเต็มคอลลาเจนให้กับร่างกาย
1. รับประทานอาหารที่มีคอลลาเจนสูง
แหล่งของคอลลาเจนสามารถพบได้จากอาหารทั่วไป ซึ่งหากเลือกประเภทอาหารสักหน่อยก็จะสามารถช่วยเติมเต็มคอลลาเจนในชีวิตประจำวันของคุณได้ ยกตัวอย่างเช่น เนื้อปลาทะเล ชาเขียว ผักใบเขียว หรืออาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้มหรือฝรั่ง เป็นต้น
2. ดื่มนมถั่วเหลือง
รู้หรือไม่ว่า ถั่วเหลืองมีส่วนช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในร่างกายได้เหมือนกัน เนื่องจากมันมีสารที่เรียกว่า ‘ไอโซฟลาโวน’ ที่มีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ และช่วยป้องกันเอนไซม์ที่เป็นตัวการทำร้ายผิว คอลลาเจนจึงมีส่วนช่วยบำรุงผิว ได้
3. รับประทานอาหารจำพวกกำมะถัน
ในกระบวนการสร้างคอลลาเจน ‘สารกำมะถัน’ ถือว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะทำให้เกิดคอลลาเจนในร่างกายได้ ซึ่งอาหารที่มีกำมะถันก็จะเป็นอาหารจำพวกกระเทียม หอมใหญ่ และหอมแดง โดยเฉพาะกระเทียมจะมีสารชนิดนี้อยู่มากทำให้ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้เป็นอย่างดี
4. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับส่งผลดีต่อร่างกายหลาย ๆ ด้านรวมถึงช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากเวลาที่ได้นอนหลับแบบมีคุณภาพนั้นร่างกายจะมีการหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth hormone) ที่มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมผิวและช่วยกระตุ้นการเกิดคอลลาเจนได้
5. รับประทานอาหารเสริมเพิ่มคอลลาเจน
สำหรับใครที่อาจจะไม่ชอบรับประทานแหล่งอาหารของคอลลาเจน เช่น พวกผักใบเขียว ชาเขียว เนื้อปลา ฯลฯ อาหารเสริมคอลลาเจนก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเติมเต็มคอลลาเจนในกับร่างกายได้เหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีทั้งรูปแบบแคปซูล เม็ด และผง ทำให้ไม่ค่อยมีรสชาติและรับประทานง่าย ที่สำคัญผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคอลลาเจนยังมีปริมาณ 1 หน่วยบริโภคอยู่เกณฑ์ที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายอีกด้วย ซึ่งดูแบรนด์ที่น่าสนใจได้ที่นี่ คอลลาเจนยี่ห้อไหนดีที่สุด น่าจะช่วยให้เลือกหาแบรนด์ที่มีคุณภาพได้ไม่ยาก
จะเห็นได้เลยว่า ‘คอลลาเจน’ คือ หนึ่งในส่วนประกอบสำคัญของร่างกายที่ช่วยบำรุงได้หลายส่วนทั้งด้านผิวพรรณ เล็บ ผม และตามข้อกระดูกต่าง ๆ หากร่างกายของคุณขาดคอลลาเจนหรือได้รับคอลลาเจนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ก็จะส่งผลต่อผิวได้โดยตรงทั้งทำให้ผิวแห้ง ไม่ชุ่มชื้น และเกิดริ้วรอยต่าง ๆ ได้ง่าย รวมถึงยังอาจเกิดอาการปวดกระดูกหรือปวดตามข้อในผู้สูงอายุได้อีกด้วย ฉะนั้นแล้วใครที่รู้ตัวว่าอายุเริ่มเข้าเลข 3 แล้ว อย่าลืมเติมเต็มคอลลาเจนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยและช่วยให้ผิวสวยได้นานยิ่งขึ้น
อ้างอิง
- คอลลาเจน คืออะไร? เลือกให้ถูกกับที่ร่างกายต้องการ. https://www.interpharma.co.th/articles/healthy-and-aging/type-of-collagen/
- คอลลาเจนคืออะไร. https://kinpla.net/คอลลาเจนคืออะไร/
- What Is Collagen, and What Is It Good For? https://www.healthline.com/nutrition/collagen#collagen-loss
- 5 Ways to Boost Collagen. https://www.healthline.com/health/ways-to-boost-collagen